มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทั่วโลก และในประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่มีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด การรักษามะเร็งเต้านมในปัจจุบันได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การฉายรังสี การใช้ยาเคมีบำบัด และการรักษาด้วยยาเป้าหมาย (Targeted Therapy) อย่างไรก็ตาม การวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสให้เกิดทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็งเต้านมที่มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงที่ลดลง  

 

ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) 

การรักษามะเร็งเต้านม หนึ่งในแนวทางการรักษาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปัจจุบันคือภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งเป็นการใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อต่อสู้กับมะเร็ง การรักษาวิธีนี้มีการใช้ยากลุ่ม Immune Checkpoint Inhibitors เช่น ยาที่กระตุ้นให้เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถจดจำและทำลายเซลล์มะเร็งได้โดยไม่ทำลายเซลล์ปกติในร่างกาย  

 

ตัวอย่างที่สำคัญของยาภูมิคุ้มกันบำบัดที่ใช้รักษามะเร็งเต้านมคือยา Pembrolizumab ซึ่งได้แสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิด Triple-Negative Breast Cancer (TNBC) ซึ่งเป็นมะเร็งชนิดที่ดื้อต่อยาเคมีบำบัดและยาเป้าหมาย  

 

ยาต้านแอนโดรเจน (Anti-androgen Therapy)

สำหรับมะเร็งเต้านมชนิด Hormone Receptor-Positive (HR+) การรักษาแบบใหม่ที่เน้นการยับยั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มีการพัฒนา Selective Estrogen Receptor Degraders (SERDs)

ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งและทำลายตัวรับเอสโตรเจนในเซลล์มะเร็งโดยตรง เช่น Fulvestrantหรือยาใหม่อย่าง Elacestrant

 

การรักษาเฉพาะจุดด้วยนาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology-Based Therapy) 

นาโนเทคโนโลยีได้รับการประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการรักษามะเร็งเต้านม ยานาโนบำบัดช่วยนำส่งยาเคมีบำบัดไปยังเซลล์มะเร็งโดยตรง ลดผลข้างเคียงที่เกิดกับเซลล์ปกติ ตัวอย่างเช่น **Liposome-Based Drug Delivery** ที่สามารถปลดปล่อยยาในบริเวณที่มีเนื้องอกได้อย่างแม่นยำ  

 

การตรวจพันธุกรรมและการรักษาแบบจำเพาะเจาะจง (Genetic Testing and Personalized Medicine) 

ในปัจจุบัน การตรวจพันธุกรรมเพื่อหาการกลายพันธุ์ของยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง เช่น BRCA1 และ BRCA2 ช่วยให้แพทย์สามารถออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยรายบุคคล การใช้ยา PARP Inhibitors เช่น Olaparib และ Talazoparib สำหรับผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของยีน BRCA ได้แสดงผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม  

 

การรักษาด้วยยาปฏิรูปใหม่ (Biosimilars and Biologics)

ยาเป้าหมายชีวภาพ (Biologics) เช่น Trastuzumab สำหรับมะเร็งเต้านมชนิด HER2-Positive ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพและราคาถูกกว่ายาต้นแบบ  

 

การผสมผสานการรักษา (Combination Therapy) 

แนวทางใหม่ในการรักษาคือการใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดร่วมกับเคมีบำบัด หรือการรักษาด้วยยาเป้าหมายร่วมกับการฉายรังสี แนวทางนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการหายขาดของผู้ป่วย  

 

ทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็งเต้านมไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา แต่ยังลดผลข้างเคียงและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ

การวินิจฉัยที่แม่นยำร่วมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ช่วยให้แพทย์สามารถเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย อนาคตของการรักษามะเร็งเต้านมจึงมีความหวังมากขึ้นจากความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ไม่หยุดยั้ง

 

 

ผู้สนับสนุนหลักโดย  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก